คุณธีรวีร์ ธิวัฒน์วรานิกุล
คุณธีรวีร์ ธิวัฒน์วรานิกุล
วิศวกร

“ยังอยู่ในช่วงของการเรียนรู้และค้นหา ระหว่างนี้ก็ลงทุนระยะยาวไปกับ Jitta Wealth เพื่อให้มีอิสรภาพทางการเงินได้ ” กับ Thematic DIY ผลตอบแทน +29.52%
รีวิว Jitta Wealth
เรียนรู้โลกลงทุนอย่างอุ่นใจ มี Thematic DIY ร่วมเดินเคียงข้าง
เส้นทางของนักลงทุน ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากสินทรัพย์ใด ทุกย่างก้าวล้วนมีความเสี่ยง แต่นั่นก็คือหนึ่งในเส้นทางการเรียนรู้และค้นหาตัวตนในโลกลงทุนที่เราทุกคนต้องเผชิญสำหรับคุณธีรวีร์ ธิวัฒน์วรานิกุล วิศวกรหนุ่มที่เพิ่งเข้าสู่สนามการลงทุนได้เพียง 3 ปี เขาถูกดึงดูดเข้าสู่โลกการลงทุนด้วยความร้อนแรงของตลาดคริปโทเคอเรนซีในเวลานั้น และโดนรับน้องจนแทบจะหมดหน้าตัก จนต้องมองหาการลงทุนที่จะเป็นแหล่งพักพิงระยะยาวด้วย Thematic DIY ที่สร้างผลตอบแทนได้แล้ว +29.52% (วันที่ 16 พ.ค. 2566- 25 ส.ค. 2567)
จุดเริ่มต้นการลงทุน
คุณธีรวีร์เข้าสู่การลงทุนในจังหวะที่ใครๆ ก็พูดถึงบิตคอยน์กันทั่วบ้านทั่วเมือง กว่าเขาจะรู้ว่านั่นคือสัญญาณว่าตลาดใกล้จะวาย ปาร์ตี้ใกล้จะเลิกแล้ว พอร์ตที่ลงทุนไปเงินต้นก็หายไปเกือบ 80% แล้ว แต่ยังดีที่เขามีวินัยในการจัดสรรเงิน แบ่งรายได้ออกเป็น 3 ส่วน คือเงินใช้จ่ายประจำ เงินฉุกเฉิน และเงินที่จะนำมาลงทุน ซึ่งการนำเงินเย็นมาลงทุนนี่เองที่ทำให้เขาไม่เครียดมากนักเมื่อพอร์ตติดลบ แต่สิ่งที่ต้องจัดการคือการมองหาช่องทางลงทุนใหม่
เริ่มต้นการลงทุนกับ Jitta Wealth
เมื่อสัมผัสได้ว่าคริปโทฯ ในตลาดขาลงมีความเสี่ยงสูงมากเกินไป คุณธีรวีร์ใช้เวลา 1 ปีในการมองหาสินทรัพย์ใหม่เพื่อลงทุน ที่เขาสามารถหาข้อมูลเชิงลึกได้มากกว่า จนมารู้จักกับ Jitta Wealth ผ่านโลกออนไลน์ ก่อนตัดสินใจลงทุนด้วยการเปิด Global ETF ตามมาด้วย Thematic DIY และ Thematic Optimize ด้วยความอยากรู้และเทียบผลตอบแทนการลงทุน
“ผมแบ่งเงินได้ออกเป็น 3 กอง เงินเย็นเอามาลงทุน ราว 40% ก็เอาไปลงทุนทั้งหมด โดยครึ่งหนึ่งมาใส่ใน Jitta Wealth และเติมพอร์ตบ้าง ที่เลือก Jitta Wealth เพราะผมมองว่าตัวเองยังมีประสบการณ์ลงทุนไม่มากนัก เมื่อ Jitta Wealth มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ก็เลือกลงทุนกับผู้ที่มีความรู้ดีกว่าและที่สำคัญคือ Jitta Wealth เป็นบลจ. ที่ใช้อัลกอริทึมบริหารและช่วยปรับพอร์ตให้ด้วย”
ลงทุนเมกะเทรนด์ในแบบที่ตัวเองสนใจ
ปัจจุบัน เขาเหลือแค่พอร์ต Thematic DIY เพียงพอร์ตเดียวและเป็นพอร์ตลูกรัก เพราะเป็นพอร์ตที่เขาต้องการมีส่วนในการบริหารเงิน ด้วยการเลือกธีมต่างๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งผลตอบแทนก็ออกมาดี โดยไส้ในของพอร์ต Thematic DIY ประกอบด้วย หุ้นสหรัฐฯ หุ้นจีน ฟินเทคและ AI ซึ่งผลตอบแทนก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจ
การสร้างผลตอบแทนที่ดีของ Thematic DIY ทำให้เขากลับรู้สึกว่า Global ETF เปิดมาก่อนหน้าให้ผลตอบแทนค่อนข้างช้า เขาจึงตัดสินใจปิดพอร์ต Global ETF และ Thematic Optimize ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เพื่อนำเงินทั้งหมดมาเพิ่มทุนให้กับพอร์ต Thematic DIY
อย่างไรก็ตาม การที่เขาอยู่ในกลุ่ม Jitta Wealth Official ที่มีเพื่อนๆ นักลงทุนมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุน ทำให้เขารู้สึกเสียดายที่ตัดสินใจปิดพอร์ต Global ETF เร็วไปหน่อย เพราะเห็นเพื่อนๆ ในกลุ่มรีวิวผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
“จริงๆ แอบเสียดาย ตอนนั้นปิดพอร์ต Global ETF ไปเพราะเห็นว่าผลตอบแทนเติบโตช้าเมื่อเทียบกับ Thematic Optimize เลยคิดว่าเอาเงินมาหย่อนให้เป็นก้อนเดียวไปเลยดีกว่า ตอนที่ปิดพอร์ตไปก็กำไรอยู่ราว 5% แต่พอเห็นพอร์ตของคนอื่นๆ ในกลุ่มเติบโตก็รู้สึกว่าติดสินใจผิด ณ ตอนนี้ก็รู้สึกว่ามันเติบโตได้จริง หากยังไม่ปิดพอร์ตก็น่าจะไปต่อได้”
DCA สร้างอิสรภาพทางการเงิน
ความตั้งใจของคุณธีรวีร์ คือต้องการที่จะลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะพอร์ต Thematic DIY ที่อยู่กับ Jitta Wealth ที่เขาเตรียมไว้ให้เป็นพอร์ตเงินออมสำหรับการเกษียณ เพราะก็ต้องการมีอิสรภาพทางการเงินเช่นนักลงทุนท่านอื่นๆ ด้วยกลยุทธ์การ DCA และคอยปรับพอร์ตไปตามรอบ โดยจะดูจากกราฟและแนวโน้มต่างๆ ของโลกเพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยในระหว่างทางเขาได้กันเงินลงทุนอีกครึ่งหนึ่งไว้เพื่อค้นหาและเรียนรู้การลงทุนอื่นๆ เพิ่มเติม ด้วยอายุที่ยังน้อยยังมีเวลาทดลองการลงทุนในรูปแบบที่หลากหลาย
“มองตัวเองเป็นนักลงทุนระยะยาว แต่ก็ยังไม่แน่ใจในสไตล์ที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะเพิ่งลงทุนมา 3 ปี ก็ยังค้นหาอยู่ ถือเป็นช่วงของการเรียนรู้”
สาเหตุที่มองให้ Jitta Wealth เป็นการลงทุนระยะยาว เพราะในฐานะผู้ที่ยังอ่อนต่อโลกการลงทุนเช่นเขา ก็ควรปล่อยให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและอัลกอริทึมที่ดีบริหารจัดการเงินลงทุนก้อนนี้ไปยาวๆ เขาเชื่อว่าการเก็บเงินในธนาคารไม่ตอบโจทย์เมื่อเทียบเศรษฐกิจปัจจุบัน และพอร์ตที่เติบโตนี้เองที่ทำให้เขาสามารถนำไปบอกเล่าให้กับครอบครัว ที่เคยปฏิเสธและห้ามไม่ให้เขาลงทุนในหุ้น เพราะทางบ้านเคยเห็นประสบการณ์ที่คนรอบตัวล้มละลายเพราะการลงทุน คุณธีรวีร์มองว่า การที่ครอบครัวรู้สึกกลัวในความเสี่ยงจากการลงทุนไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะนั่นมาจากความ ‘ไม่รู้’ และปิดกั้นที่จะศึกษา หากแต่การศึกษาหาความรู้ไปเรื่อย ๆ ประกอบกับวินัยทางการเงินจะช่วยให้ความเสี่ยงลดลงไปได้
มี Jitta Wealth เป็นเครื่องมือลงทุน
“เมื่อได้มาลงทุนกับ Jitta Wealth ค่อนข้างตอบโจทย์ ผมสามารถอวดที่บ้านได้ ให้เขาเห็นว่าเมื่อเทียบกับการฝากธนาคารไว้ การนำเงินมาลงทุนก็ทำให้เงินเติบโตได้ดี ผมก็พยายามเอาตัวเลขที่บวกไปให้ดู หรืออย่างช่วงที่กราฟดิ่ง ก็เอาไปให้ดูเช่นกัน ให้เขาเห็นว่านี่คือการเรียนรู้ในสิ่งที่ผมทำ และ Jitta Wealth ก็เป็นเครื่องมือการลงทุนที่จะช่วยให้เรามีอิสรภาพทางการเงินได้ แค่เราต้องมีวินัย”
การเรียนรู้อย่างเข้มข้นในช่วง 3 ปีแรกของการลงทุนก็คือ ประสบการณ์ลงทุนในคริปโทฯ ที่เขาพลาด ปล่อยให้ราคาร่วงลงหนักเกินไป จนเงินทุนแทบจะไม่เหลือ Mindset ใหม่ที่เขาต้องมีจากบทเรียนนี้เพื่อใช้ในเส้นทางการลงทุนอีกยาวไกลก็คือวินัยในการ cut loss และต้องมี stop loss ที่เหมาะสม
“ส่วนเงินลงทุนกับ Jitta Wealth เป็นเงินเย็น ผมไม่ซีเรียสว่าจะขึ้นหรือลง ผมมองแค่ว่าหากชนะตลาดได้ในระยะยาว ผมก็แค่รอเวลา”

