คุณอังกูร เหลืองอร่าม

#รีวิวJittaWealth
ไม่แคร์ตลาดแย่ แค่เดินหน้า DCA ให้ Global ETF เป็นพอร์ต Safe Zone

ท่ามกลางฝุ่นที่ตลบอยู่ในตลาดหุ้นทั่วโลกเวลานี้ หุ้นเล็กหุ้นใหญ่ ร่วงระเนระนาด  เชื่อว่านักลงทุนที่ต่อให้ใจแข็งแค่ไหนก็คงต้องแอบเปิดดูพอร์ตกันบ้าง แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่เลือกสินทรัพย์ที่ดีและ DCA อย่างต่อเนื่อง พอร์ตก็จะยังมีโอกาสอยู่ในโซนเขียวได้สบายๆ เช่นเดียวกับคุณอังกูร เหลืองอร่าม แพทย์เฉพาะทาง ที่ยกให้ Global ETF เป็นพอร์ตเซฟโซนไปจนเกษียณ  แถมยังเดินหน้า DCA ตามแผนการที่วางไว้ โดยไม่สนใจภาวะตลาดจะเขียวหรือแดง และนั่นก็ทำให้วันที่ตลาดทั่วโลกแดงเดือดในต้นเดือนเม.ย. 68 จากข่าวสงครามการค้า แต่พอร์ต Global ETF ของคุณอังกูรก็ยังคง +41.74% (11 พ.ย. 2563 – 10 เม.ย. 2568)

คุณอังกูร เริ่มต้นการลงทุนตั้งแต่เรียนจบแพทย์เฉพาะทาง ในช่วงแรกเป็นเพียงการซื้อกองทุน LTF เพื่อลดหย่อนภาษี และซื้อหุ้นไทยรายตัวอยู่บ้าง แบบงูๆ ปลาๆ เน้นหุ้นใหญ่เพื่อเก็บระยะยาว แต่ก็ไม่มากนัก และไม่ได้ DCA เพราะยอมรับว่าไม่ได้มีความรู้เรื่องการลงทุนมากนักจึงไม่กล้าที่จะลงทุนให้มากนัก

กระทั่งได้มาอ่านหนังสือ Jitta Way  พ็อกเก็ตบุคเล่มแรกของ Jitta ในช่วงเวลาที่เขาเองกำลังมองหาทางเลือกในการลงทุนใหม่ๆ ทำให้ได้รู้จักกับองค์กรที่น่าสนใจ เมื่อศึกษามากขึ้นก็พบว่า Jitta Wealth มีการปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ แถมยังมีค่าธรรมเนียมที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับกองทุนอื่นๆ ที่มีการปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ แต่ค่าธรรมเนียมสูง 

เลือกลงทุนให้เหมาะกับธรรมชาติของตัวเอง

คุณหมอเปิดพอร์ตแรกด้วย Global ETF เพราะเงินลงทุนขั้นต่ำยังน้อยกว่า Jitta Ranking และตรงกับความต้องการส่วนตัวที่เน้นการเติบโตระยะยาว ผันผวนน้อยกว่า  Jitta Ranking และโดยส่วนตัวคุณหมอรู้ตัวแล้วว่าชอบแนว Index Fund และตั้งใจแล้วว่าจะ DCA ใน Index Fund ไปเรื่อยๆ ซึ่ง Global ETF ตอบโจทย์เพราะเป็น Index Fund ที่มีการกระจายความเสี่ยงทั่วโลก และปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ  ดีกว่าการไปลงทุนใน Index Fund ของ  S&P 500  เมื่อมีเงินก้อน เขาจึงเปิดพอร์ตและตั้งใจ DCA ตั้งแต่ตอนนั้น เพื่อให้ Global ETF เป็นพอร์ตพื้นฐาน หรือเป็น Safe Zone ของตัวเอง​ 

“ตอนนั้นก็ค่อนข้างรู้จักธรรมชาติการลงทุนแต่ละแบบ อะไรที่ต้องรอ ค่อยๆ โต อะไรที่ขึ้นไวลงไว  และรู้สไตล์การลงทุนของตัวเองแล้วว่า เป็นคนไม่ชอบจับจังหวะ เพราะการเป็นแพทย์ ผมไม่ชอบที่จะมานั่งดูหุ้นขึ้นลง  ไม่ชอบดูแนวโน้มตลาดขึ้นลง บางคนอาจจะชอบ แต่ผมรู้สึกว่ามันทำให้เราไม่มีความสงบใจในการทำงาน ก็อยากลงทุนระยะยาวไปแบบค่อยๆ เติบโต ไม่ผันผวนมาก  ให้พอร์ตเติบโตไปเองมากกว่า”
 
สำหรับการจัดสรรเงินของคุณหมอจะเริ่มจากการคำนวณเม็ดเงินที่ต้องการหลังเกษียณไว้ แล้วคิดย้อนกลับมาว่าต้อง DCA เดือนละเท่าไร ด้วย Global ETF แผนเติบโตที่มีผลตอบแทนคาดหวังที่ 8% ต่อปี  เมื่อรู้จำนวนเงินที่ต้อง DCA แล้วเขาก็แค่ค่อยๆ เก็บไปในแต่ละเดือนใน Global ETF เหมือนที่คุณพ่อคุณแม่เคยเก็บเงินในบัญชีเงินฝากประจำให้ทุกเดือนตั้งแต่เด็ก ทำให้เขา DCA ในพอร์ตเซฟโซนได้อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน​  

แผนการลงทุนของคุณอังกูรมีเป้าหมายให้ Global ETF โตไปเรื่อยๆ และหากเกษียณจึงจะค่อยๆ ถอนออกมาปีละ 5% ​เพื่อเป็นรายได้ไว้ใช้จ่ายยามเกษียณ และอาจจะเปลี่ยนไปเป็น Global ETF แผนสมดุล เพื่อรับความเสี่ยงที่น้อยลง 

สร้างพอร์ตเซฟโซน 3 ปี ผลตอบแทน +40%

เมื่อมีเซฟโซนของตัวเองแล้ว  พอร์ตอื่นๆ อย่าง Jitta Ranking Alpha ที่เขาโยกมาจากพอร์ต Thematic Optimize ก็จะถือเป็น Opportunity Port คือเป็นพอร์ตเพิ่มเติมที่จะมาเสริมเติมแต่งให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น และเป็นโบนัสชีวิต หรือกำไรส่วนเพิ่มในอนาคต เอาไว้ซื้อของที่อยากได้  ถือเป็นพอร์ตทดลองไปในตัว  เพราะเป็นเงินที่ติดลบแล้วจะไม่เดือดร้อนกับพอร์ตนี้ โดยเขาจะจำกัดสัดส่วนของเงินต้นที่น้อยกว่าพอร์ตเซฟโซน หรือ Global ETF ไว้ที่ 3 ส่วน พอร์ต Jitta Ranking 1 ส่วน

“พอร์ต Global ETF ถือว่าโอเคแล้วสำหรับเกษียณ ด้วยค่าธรรมเนียมต่ำ และการปรับพอร์ตอัตโนมัติช่วยให้บาลานซ์พอร์ตในสัดส่วนที่เราต้องการ ส่วนพอร์ตอื่นเป็นเหมือนกำไรชีวิต เอาไว้รับความเสี่ยงดูบ้าง  อย่าง Jitta Ranking Alpha ก็ช่วยให้เราไม่ต้องเลือกหุ้นเอง แต่เป็นพอร์ตเอาสนุก ไม่ใช่ลูกรัก เพราะผมชอบเซฟโซน  ถ้า Jitta Wealth  มีอะไรน่าสนใจมาก็จะเอาไปลง สร้างสีสันให้ชีวิต หากไม่สวิงมากนักก็คงถือยาว แต่พอร์ตลูกรักก็ต้องยกให้ Global ETF”​

ประสบการณ์การลงทุนใน Global ETF เมื่อเข้าสู่ปีที่ 5 คุณอังกูรเล่าว่า จากที่เคยคิดว่า  Global ETF เป็นพอร์ตที่ไม่ได้หวือหวา แค่ 3 ปีผ่านไป เปิดพอร์ตดูอีกทีก็พบว่า กำไรประมาณ +40% ไปแล้ว ยิ่งตอกย้ำว่า “นี่คือเซฟโซนอย่างที่เราคิดจริงๆ” และนี่คือผลของการเดินหน้า DCA ไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจภาวะตลาดจะขึ้นหรือจะลงอย่างไร เพราะมีความมั่นใจในการลงทุนระยะยาวใน Index Fund 

“อาจจะดีที่เราลงทุนตอนที่ไม่ใช่จังหวะขาลง ที่จะทำให้เราไม่สบายใจ เหมือนในกลุ่ม Jitta Wealth Official ใน Facebook ที่เห็นบางคนลงทุนปุ๊บพอร์ตก็ร่วงไปเลย ดีที่เราไม่ได้เจอช่วงนั้น หรือเจอแล้วเรามัวแต่ยุ่งกับงานแล้วไม่สนใจ ยังเดินหน้า DCA ผมเชื่อว่ามันเป็นผลของการ DCA​ โดยเฉพาะใน Index Fund ก็เลยคิดว่ามันค่อนข้างโตเสถียร”

เผชิญวิกฤติได้โดยไม่หวั่นไหว

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดที่ทั่วโลกกำลังระส่ำกับสงครามการค้าและภาษี ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งแรง นักลงทุนตื่นตระหนกเทขายพอร์ตหนีตาย แต่คุณอังกูรกลับนิ่ง เขายอมรับว่าเห็นผลตอบแทนที่ลดลงมาจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน แต่ด้วยพอร์ตที่บวกมาเยอะทำให้เขายังสบายใจได้

“ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร  เพราะพอร์ตมันบวกมาเยอะ​ (หัวเราะอย่างสบายใจ) พอมาถึงจุดที่บวกไปประมาณ 40% แล้ว เมื่อต้นเดือนที่ตลาดไม่ดีก็แค่บวกน้อยลง แต่ก็ยังกำไรประมาณ +30% ลดลงหน่อยแค่นั้น และเมื่อเหตุการณ์ดีขึ้นพอร์ตก็กลับมาได้อย่างรวดเร็ว”

คุณอังกูรยังให้กำลังใจนักลงทุนท่านอื่นๆ ว่า ธรรมชาติของพอร์ต Global ETF​ ก็มีขึ้นมีลงเป็นฤดูกาล แต่สุดท้ายมันก็จะผ่านไปได้ แต่ในช่วงที่เป็นฤดูกาลแบบนี้ หากเรายัง DCA อยู่ เราน่าจะได้ Benefit มากขึ้น การ DCA ยามขาลงเราจะได้จำนวนหุ้นมากขึ้นด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าตลาดขึ้นหรือลง ถ้าเรา DCA อยู่แล้ว โดยรวมก็น่าจะบวกขึ้นเรื่อยๆ  
 
“จริงๆ ช่วงที่ผ่านมาของ Global ETF​ มีช่วงที่กำไรไม่ค่อยขึ้น แต่การที่เรา DCA ในช่วงที่ตลาดไม่หวือหวา นิ่ง ๆ หรือไร้ทิศทางแต่เรา DCA ไปเรื่อยๆ  โดยไม่คิดอะไร  ไม่ต้องเครียดกับมันมาก แล้วเมื่อวันนึงมันกลับมา มันจะกลับมากำไรเยอะมาก ​ สิ่งที่เรา DCA มาตลอด มันจะกลับมาโดยที่เราไม่รู้ตัว  จะได้เห็นผลตอบแทนในช่วงที่เราอดทน  ดีกว่าตลาดไร้ทิศทางแล้วเราไม่ลง จะมานั่งเสียดายทีหลัง ดังนั้นก็ DCA ไปแหละ ไม่ต้องคิดอะไรมาก”

*ศึกษาข้อมูลนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละนโยบายได้ที่ jittawealth.com

**ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน