‘เฟ้นหาหุ้นดีทั่วโลก สร้างพอร์ตเติบโตแบบ VI’ สรุป Workshop จากงาน Better Trade
ไฮไลต์
- เข้าใจ Market Cycle ก่อนลงมือ: จังหวะที่คนส่วนใหญ่กลัวมักซ่อนโอกาสซื้อ ‘ของดีราคายุติธรรม’ ใช้ข้อมูลมหภาคและ Market Prediction ช่วยระบุเฟสของรอบเศรษฐกิจให้ชัด
- เลือกหุ้นแบบมีหลัก: ใช้ Jitta Score Jitta Line และ Jitta Factor มองคุณภาพธุรกิจ + ความเหมาะสมของราคา แล้วคัดลำดับด้วย Jitta Ranking เพื่อหา ‘ธุรกิจดี ราคายังไม่แพง’
- คัดกรองอย่างเป็นระบบ: ค้นหาตลาดกว่า 28 ประเทศ เรียงตาม Jitta Ranking และสร้าง Screening ส่วนตัวด้วย Jitta Playlist (เช่น CFO Trend หรือ แนวโน้มหนี้ระยะยาว) เพื่อโฟกัสหุ้นที่เข้าเงื่อนไขจริง
- อ่านงบให้เห็นภาพ: ดูฐานะ (เงินสด-หนี้) และศักยภาพเติบโต (รายได้ กำไร กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน) ผ่าน Factsheet และอัตราส่วนสำคัญบน Jitta.com ให้เข้าใจเร็วในหน้าเดียว
- จัดพอร์ต ‘น้อยแต่เน้นคุณภาพ’: ถือหุ้นเพียง 5-20 ตัวเพื่อดูแลได้ทั่วถึง และให้น้ำหนักแบบ 20%/10%/5% ตามระดับความมั่นใจ ช่วยรักษาสมดุลระหว่างโอกาสและความเสี่ยง
- วินัยคือหัวใจ: ติดตามงบและข่าวสารผ่านฟีเจอร์ Following สม่ำเสมอ ลดการตัดสินใจตามอารมณ์ และคงแผนระยะยาวให้เดินต่อได้ในทุกสภาวะตลาด
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา Jitta Wealth และ Jitta.com ได้จัดเวิร์กช็อปพิเศษในงาน Better Trade: The Intelligent Investor ภายใต้หัวข้อ ‘เฟ้นหาหุ้นดีทั่วโลก สร้างพอร์ตเติบโตแบบ VI’ โดยมีนักลงทุนให้ความสนใจเข้าร่วมอย่างล้นหลาม
ตลอดเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม ทีมงาน Jitta นำโดยคุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ได้ อธิบายตั้งแต่ภาพใหญ่ของตลาด ไปจนถึงวิธีคัดเลือกหุ้น วิเคราะห์งบ และจัดพอร์ตลงทุนให้เหมาะกับตนเอง เพื่อให้สามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจในทุกสภาวะตลาด
เนื้อหาจะมีอะไรบ้าง บทความนี้สรุปมาให้แล้ว
เข้าใจตลาดก่อนลงทุน
การลงทุนที่ดีเริ่มจากการ ‘เลือกตลาดให้ถูกจังหวะ’ เข้าใจวัฏจักรเศรษฐกิจ (Market Cycle) เพื่อมองให้ออกว่าตลาดอยู่ในช่วงใดของวัฏจักรเศรษฐกิจ และควรลงทุนเมื่อใด ซึ่งมักพบว่า ‘ช่วงวิกฤติ’ คือช่วงเวลาที่ซ่อนโอกาสดีที่สุดไว้เสมอสำหรับผู้ที่กล้าลงทุนเมื่อคนอื่นกลัว
ในเวิร์กช็อป ทีม Jitta อธิบายว่าเศรษฐกิจและตลาดหุ้นมักหมุนเวียนผ่านสี่ช่วงหลัก ได้แก่ การฟื้นตัว เฟื่องฟู ชะลอตัว และถดถอย ซึ่งในแต่ละช่วง สินทรัพย์ต่างๆ จะให้ผลตอบแทนต่างกัน สิ่งสำคัญคือการรู้ว่าตลาดอยู่ในจุดใด เพื่อจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและโอกาสในเวลานั้น โดยเฉพาะช่วงที่หลายคนกลัวหรือวิตกจากข่าวร้ายทางเศรษฐกิจ เพราะนั่นอาจเป็นเวลาที่นักลงทุน VI เตรียม ‘ซื้อของดีในราคาถูก’
การใช้ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคประกอบกับระบบ Market Prediction เพื่อประเมินจังหวะของตลาด รวมถึงใช้ Jitta.com เป็นเครื่องมือดูภาพรวมตลาดต่างประเทศ เพื่อหาตลาดที่ยังมีมูลค่าถูกกว่า เมื่อเรามองเห็นรอบเศรษฐกิจได้ชัด ก็จะรู้ว่าควรลงทุนเมื่อใด
การเลือกหุ้นคือหัวใจของความสำเร็จ
หัวใจของการลงทุนแบบ VI คือการซื้อธุรกิจดีในราคาที่เหมาะสม แต่ในยุคที่ข้อมูลจำนวนมหาศาลและซับซ้อน การวิเคราะห์หุ้นด้วยตัวเองทุกตัวอาจไม่ใช่เรื่องง่าย นั่นคือเหตุผลที่ Jitta.com ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อทำให้ ‘การวิเคราะห์หุ้นพื้นฐานดี ราคายุติธรรม’ เป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้
ในเวิร์กช็อป ทีม Jitta ได้สรุป ‘3 ค่า สำคัญ’ ที่นักลงทุนทุกคนควรรู้จัก ได้แก่
Jitta Score คะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 10 ที่สะท้อนคุณภาพของบริษัท ยิ่งคะแนนสูง ยิ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจและความสามารถในการสร้างผลกำไรต่อเนื่อง
Jitta Line มูลค่าพื้นฐานของธุรกิจในราคาที่ยุติธรรม หากราคาหุ้นในตลาดต่ำกว่าเส้น Jitta Line หมายถึงการลงทุนจะยิ่งปลอดภัยมากขึ้น และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้น
Jitta Factor ปัจจัยทางการเงินหลัก เช่น กำไรสุทธิ การเติบโตของรายได้ ระดับหนี้สิน และประสิทธิภาพการบริหาร ซึ่งช่วยให้เข้าใจว่าบริษัทนั้นมีพื้นฐานมั่นคงแค่ไหน
เมื่อผสานค่าทั้งสามเข้าด้วยกัน จะได้ ‘ภาพรวมธุรกิจ’ ที่เข้าใจง่ายในไม่กี่วินาที และกลั่นออกมาเป็น ‘Jitta Ranking’ ระบบจัดอันดับหุ้นทั่วโลกตามหลักการ VI ที่ช่วยให้นักลงทุนเห็นทันทีว่าธุรกิจใดดี ราคายังไม่แพง และน่าลงทุนที่สุดในตลาดนั้น

จากข้อมูลมหาศาลสู่การตัดสินใจที่แม่นยำ
ในยุคที่ข้อมูลไหลเร็วเกินกว่าจะอ่านหมด Jitta.com จึงออกแบบเครื่องมือให้ใช้งานได้ง่ายแต่ทรงพลัง นักลงทุนสามารถเริ่มต้นได้จากการค้นหาหุ้นที่สนใจผ่านระบบ Search ซึ่งมีข้อมูลหุ้นกว่า 28 ประเทศทั่วโลก จากนั้นเลือกดูหุ้นในตลาดนั้นๆ ตามลำดับ Jitta Ranking ที่จัดเรียงไว้แล้วโดยอัตโนมัติ
อีกฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมคือ Jitta Playlist ซึ่งช่วยให้สร้าง ‘ระบบกรองหุ้นส่วนตัว’ ได้เอง เช่น เลือกเฉพาะบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มีกระแสเงินสดเป็นบวกต่อเนื่อง 3 ปี
หรือกรองจากแนวโน้มของหนี้สินระยะยาวที่ลดลงต่อเนื่อง นักลงทุนจึงสามารถสร้าง Screening ของตัวเองได้ภายในไม่กี่คลิก และเมื่อเจอหุ้นที่น่าสนใจ ยังสามารถเพิ่ม Note เพื่อบันทึกความคิดเห็นหรือข้อมูลสำคัญไว้ประกอบการตัดสินใจในอนาคต
อ่านงบการเงินอย่างเข้าใจ
อีกหนึ่งหัวข้อที่ผู้เข้าร่วมเวิร์กช็อปให้ความสนใจคือ ‘การอ่านงบการเงินให้เข้าใจจริง’ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุน VI ทุกคนต้องทำได้ เพราะงบการเงินคือกระจกสะท้อนคุณภาพของธุรกิจ
เริ่มจากดูองค์ประกอบสำคัญที่สะท้อนฐานะทางการเงินและศักยภาพของบริษัท เช่น ดูกระแสเงินสดและหนี้สินจากตัวเลข Cash & Cash Equivalent, Long-term Debt, Common Shares เพื่อประเมินความมั่นคงของฐานทุน และดูแนวโน้มของรายได้ กำไรสุทธิ และ Operating Margin เพื่อวิเคราะห์ความสามารถในการเติบโตระยะยาว
Jitta.com แปลงตัวเลขเหล่านี้ให้อ่านง่ายผ่านหน้า Factsheet พร้อมกราฟและอัตราส่วนสำคัญ นักลงทุนสามารถดูภาพรวมธุรกิจได้ครบในหน้าเดียว โดยไม่ต้องเปิดไฟล์งบการเงินแบบเดิมที่ซับซ้อน
สามารถใช้งาน Jitta.com ได้ผ่านทางเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Jitta
ใช้ AI อย่างมีสติ
ในเวิร์กช็อปยังพูดถึงเทคนิคการใช้ Generative AI เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม เช่น ใช้เพื่อสรุปแนวโน้มของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หรือปัจจัยที่ส่งผลต่อบริษัทในตลาดหุ้นไทย ทีมงานย้ำว่า AI เป็นเพียง ‘ผู้ช่วย’ ที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมเร็วขึ้น ไม่ใช่เครื่องมือที่ควรใช้ตัดสินใจแทน
ตัวอย่าง Prompt ที่แนะนำ เช่น ‘สรุปแนวโน้มเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมพลังงานในปีนี้ พร้อมปัจจัยที่อาจกระทบต่อบริษัทในตลาดหุ้นไทย’ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพ Macro และ Micro พร้อมกัน แต่ต้องไม่ลืมตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ทุกครั้งก่อนนำไปใช้จริง
จัดพอร์ตให้ถูกหลัก ถือหุ้นน้อยแต่เข้าใจให้ลึก
อีกช่วงหนึ่งที่ผู้เข้าร่วมสนใจมากคือแนวคิด ‘ถือหุ้นเพียง 5-20 ตัวก็เพียงพอ’ ซึ่งเป็นหลักการจัดพอร์ตที่ Jitta Ranking ใช้มาตลอด และพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในระยะยาว
การถือหุ้นมากเกินไปไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงเสมอไป แต่กลับทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยลดลง เพราะหุ้นที่เติบโตโดดเด่นไม่สามารถดึงพอร์ตขึ้นได้เต็มที่ อีกทั้งนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่สามารถติดตามข่าวสารและผลประกอบการของหุ้นจำนวนมากพร้อมกันได้ การมีพอร์ตที่เน้นหุ้นคุณภาพสูงในจำนวนที่พอเหมาะจึงช่วยให้เข้าใจธุรกิจได้ลึก และตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น
อีกแนวทางที่แนะนำคือจัดสัดส่วนพอร์ตอย่างสมดุล เช่น
- หุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งที่มั่นใจมากที่สุด ประมาณ 20%
- หุ้นคุณภาพดีทั่วไป 10%
- หุ้นที่มีความเสี่ยงสูงแต่มีโอกาสเติบโต 5%
หลักการนี้ช่วยให้พอร์ตมีทั้งความมั่นคงและโอกาสเติบโตในเวลาเดียวกัน และยังง่ายต่อการติดตามผล
วินัยคือสิ่งที่แยกนักลงทุนมืออาชีพออกจากนักเก็งกำไร
ไม่ว่าพอร์ตของคุณจะถูกออกแบบมาดีเพียงใด หากขาดวินัยในการลงทุน ผลลัพธ์ย่อมไม่ยั่งยืน นักลงทุน VI ทุกคนจึงต้องมีระบบติดตามผลประกอบการและข่าวสารของบริษัทที่ถืออยู่ Jitta.com มีฟีเจอร์ Following ที่ช่วยแจ้งเตือนเมื่อมีการประกาศงบหรือข่าวสำคัญ เพื่อให้คุณไม่พลาดข้อมูลใหม่ และสามารถปรับพอร์ตได้อย่างเหมาะสม

ลงทุนเองได้ แต่ถ้าอยากให้มืออาชีพดูแล เลือก Jitta Wealth
ในช่วงท้ายของเวิร์กช็อป ทีม Jitta ได้เปิดตัวแนวทางสำหรับนักลงทุนที่อยากใช้หลักการ VI แต่ไม่มีเวลาติดตามตลาด หรือคัดเลือกหุ้นมาจัดพอร์ตด้วยตัวเอง นั่นคือ Jitta Ranking Alpha
Jitta Ranking Alpha คือพอร์ตลงทุนที่ผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับหลักการ VI โดยมี Alpha AI เลือกประเทศที่มีโอกาสทำกำไรสูงสุด และ ให้ Jitta Ranking AI คัด ‘หุ้นดีราคาเหมาะสม’ มาจัดพอร์ตให้อัตโนมัติ พร้อมกับคอยปรับพอร์ตหุ้นทุกๆ 3 เดือน และปรับประเทศทุกปี
ผลการทดสอบย้อนหลังตลอด 10 ปี (2558-2567) แสดงให้เห็นว่าพอร์ต Jitta Ranking Alpha ที่เงินลงทุนเริ่มต้น 2 ล้านบาท (ถือหุ้น 20 ตัว) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 21% ต่อปี
แต่พิเศษตอนนี้ สมารถเริ่มต้นลงทุน Jitta Ranking Alpha โดยใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 500,000 บาท จากเดิมที่เคยจำกัดไว้ 2 ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงกลยุทธ์ระดับโลกได้ง่ายขึ้น (วันนี้-30 ธันวาคม 2568)
โดยเงินลงทุนเริ่มต้น 500,000 บาท (ถือหุ้นประมาณ 5 ตัว) ผ่านการทดสอบย้อนหลังตลอด 10 ปี (2558-2567) ทำผลตอบแทนเฉลี่ย 23.96% ต่อปี ซึ่งจะมีความผันผวนมากกว่า (Maximum Drawdown -43.53%)
แนะนำให้คุณ DCA สม่ำเสมอ เพื่อให้พอร์ตสามารถกระจายลงทุนในหุ้นได้มากขึ้น ลดความผันผวนและสร้างโอกาสเติบโตในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น
เป็นทางเลือกสำหรับของนักลงทุนที่ต้องการให้ ‘AI ช่วยทำตามหลัก VI ’ ดูแลพอร์ตให้เติบโตระยะยาวอย่างมีระบบ โดยไม่ต้องมาคอยบริหารจัดการด้วยตัวเอง
รู้จัก JItta Ranking Alpha มากขึ้นได้ที่นี่
(ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน)
พอร์ตที่ดีที่สุดคือพอร์ตที่เข้าใจ
ความมั่งคั่งไม่ได้เกิดจากการคาดเดาตลาด แต่เกิดจากการเข้าใจในสิ่งที่เราลงทุนอย่างแท้จริง
หากคุณเข้าใจตลาด เข้าใจธุรกิจ และเข้าใจตัวเองในฐานะนักลงทุน คุณจะไม่ต้องวิ่งตามข่าวหรือถามว่าควรซื้อหุ้นอะไรดี เพราะคุณจะเริ่มมองเห็นธุรกิจที่อยากเป็นเจ้าของ และพร้อมจะลงทุนอย่างมีเหตุผล
และถ้าคุณอยากเริ่มต้นสร้างพอร์ตลงทุนแนว VI ต้องการพอร์ตที่บริหารจัดการให้อัตโนมัติปรึกษา พูดคุยกับเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนของเราได้ที่ LINE: @JittaWealth