DIYGlobal ETF

S&P 500 คืออะไร? ทำไมคนทั่วโลกเลือกลงทุนในดัชนีนี้

peat 22 กรกฎาคม 2025

ไฮไลต์

  • S&P 500 ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ครอบคลุม 500 บริษัทชั้นนำ
  • ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ยสูง 9-12% ต่อปี
  • ลงทุนง่าย ต้นทุนต่ำ ผ่าน ETF และกองทุนดัชนี
  • เหมาะสำหรับลงทุนระยะยาว 5-10 ปีขึ้นไป
  • ลงทุนสะดวก ผ่านนโยบาย Thematic DIY ของ Jitta Wealth 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของโลก และหนึ่งในดัชนีหุ้นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ก็คือดัชนี S&P 500 แล้วทำไมดัชนีนี้ถึงดึงดูดใจนักลงทุนทั่วโลก เราจะพาคุณไปทำความรู้จักดัชนีที่เป็นตัวแทนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมวิธีลงทุนที่สะดวก และง่ายมากในปัจจุบัน

รู้จัก S&P 500 ดัชนีหุ้นที่ทั่วโลกจับตามอง

S&P 500 ย่อมาจาก Standard & Poor’s 500 คือ ดัชนีตลาดหุ้น (Stock Market Index) ที่ใช้วัดผลการดำเนินงานโดยรวมของ บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ที่สุด 500 แห่ง ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมหลากหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น เทคโนโลยี การเงิน บริการสุขภาพ สินค้าอุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

เปรียบเสมือน ‘ตัวชี้วัด’ สุขภาพและความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในภาพรวม เพราะหุ้นทั้ง 500 บริษัทนี้มีมูลค่ารวมกันคิดเป็นประมาณ 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นทั้งหมดในสหรัฐฯ

ข้อดีของการลงทุนใน S&P 500

การลงทุนใน S&P 500 มีจุดเด่นที่สำคัญหลายข้อ ได้แก่

  • กระจายความเสี่ยงดี เพราะลงทุนในบริษัทชั้นนำกว่า 500 บริษัท จากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม
  • ผลตอบแทนระยะยาวสูง โดยผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวย้อนหลังประมาณ 9-10% ต่อปี
  • ค่าธรรมเนียมและเงินลงทุนเริ่มต้นต่ำ เมื่อลงทุนผ่าน ETF หรือกองทุนดัชนี
  • ความโปร่งใสและสภาพคล่องสูง นักลงทุนสามารถซื้อและขายได้สะดวก อีกทั้งเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นเข้าดัชนีก็มีความโปร่งใสและชัดเจน

ผลตอบแทนย้อนหลังของ S&P 500

แม้ผลตอบแทนในอดีตจะไม่ใช่เครื่องการันตีอนาคต แต่ในระยะยาว S&P 500 มีประวัติศาสตร์การสร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจ

  • ผลตอบแทนเฉลี่ยระยะ 10 ปีที่ผ่านมา (2014-2024) อยู่ที่ประมาณ 12.2% ต่อปี
  • ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ดัชนีมีการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10.5% ต่อปี

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความมั่นคงและการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้อย่างชัดเจน (อ้างอิงจาก Macrotrends)

ภาพ 5 เรื่องต้องรู้ก่อนลงทุนใน S&P 500 1 รู้จัก S&P 500 ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ครอบคลุม 500 บริษัทชั้นนำสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ 2 ข้อดีของการลงทุนใน S&P 500 คือ กระจายความเสี่ยงใน 500 บริษัทชั้นนำ ผลตอบแทนย้อนหลังดี (9-12% ต่อปี) ลงทุนง่าย ผ่าน ETF หรือกองทุนดัชนี 3 มีผลตอบแทนระยะยาวที่ดี
ผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี เฉลี่ย ประมาณ 12.2% ต่อปี ผลตอบแทนย้อนหลัง 30 ปี เฉลี่ย ประมาณ 10.5% ต่อปี (อ้างอิงจาก Macrotrends) 4 S&P 500 เหมาะกับนักลงทุนที่ ต้องการลงทุนระยะยาว 5-10 ปีขึ้นไป รับความเสี่ยงได้ และมองหาโอกาสเติบโตที่สม่ำเสมอ ไม่ต้องการวิเคราะห์หุ้นรายตัว 5 ลงทุน S&P 500 กับ Jitta Wealth สามารถลงทุนผ่านนโยบาย Thematic DIY ธีม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ลงทุนใน iShares Core S&P 500 ETF (IVV) ลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท สามารถจัดพอร์ตร่วมกับธีมอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมระบบดูแลปรับพอร์ต บาลานซ์สัดส่วนให้อัตโนมัติ ทั้งนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต

มุมมองที่น่าสนใจของการลงทุน S&P 500 ในปัจจุบัน

ในปัจจุบัน S&P 500 ยังคงเป็นที่นิยมจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังวิกฤติ Covid-19 และการเติบโตของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Apple Microsoft และ Amazon ซึ่งมีสัดส่วนสำคัญในดัชนี ทำให้ S&P 500 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีในการลงทุนในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวน

S&P 500 เหมาะกับใคร?

S&P 500 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่

  • ต้องการลงทุนระยะยาว อย่างน้อย 5-10 ปีขึ้นไป
  • รับความเสี่ยงได้ และมองหาโอกาสเติบโตที่สม่ำเสมอ
  • ไม่ต้องการเสียเวลาวิเคราะห์หุ้นรายตัว แต่ต้องการลงทุนในหุ้นชั้นนำในสหรัฐฯ

วิธีลงทุนใน S&P 500

ปัจจุบันนักลงทุนสามารถเข้าถึงดัชนี S&P 500 ได้ง่ายกว่าเดิมผ่านการลงทุนในกองทุน ETF หรือกองทุนรวมดัชนี (Index Funds) ซึ่งมีต้นทุนต่ำ และสามารถซื้อขายได้ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ทั่วไป 

ตัวอย่าง ETF ที่น่าสนใจ 

  • iShares Core S&P 500 ETF (IVV)
  • SPDR S&P 500 ETF Trust (SPY)
  • Vanguard S&P 500 ETF (VOO)

ลงทุนใน S&P 500 กับ Jitta Wealth สะดวก สบายใจ

Jitta Wealth ให้คุณลงทุนใน S&P 500 ผ่านนโยบาย Thematic DIY โดยเลือกธีม ‘ตลาดหุ้นสหรัฐฯ’ ซึ่งลงทุนใน iShares Core S&P 500 ETF (IVV) ที่อ้างอิงดัชนี S&P 500 โดยตรง 

โดย ETF ที่เราเลือกมาให้คุณลงทุนนั้นพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ขนาดของกองทุน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของกองทุน ผลตอบแทนของกองทุนเทียบกับดัชนีที่อ้างอิง (Tracking Error) และผลตอบแทนเทียบกับความเสี่ยง 

โดยเกณฑ์ และขั้นตอนการคัดเลือก รวมถึง ETF ที่จะลงทุน จะมีการพิจารณาทบทวนตามรอบระยะเวลาที่เหมาะสมอยู่เสมอ มั่นใจได้ว่าลงทุนกับ Jitta Wealth คุณจะได้ลงทุนใน ETF คุณภาพ จากบรรดา ETF ในลักษณะเดียวกันมากมาย

ข้อดีของการลงทุน S&P 500 ETF ผ่าน Thematic DIY คือ 

สามารถเลือกลงทุนร่วมกับธีมอื่นๆ อีกมากมายกว่า 27 ธีม เช่น ธีมตลาดหุ้นชั้นนำต่างๆ อย่าง จีน เวียดนาม อินเดีย หรือธีมเมกะเทรนด์อนาคตไกล อย่าง ธีมเทคโนโลยี ธีมไซเบอร์ซิเคียวริตี้ เป็นต้น

เมื่อคุณเลือกธีมที่คุณอยากลงทุนร่วมกับธีมตลาดหุ้นสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว Jitta Wealth จะดูแล รีวิวและปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ

แต่ถ้าคุณต้องการกระจายความเสี่ยงที่มากขึ้น โดยการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นชั้นนำทั่วโลก ร่วมกับ ตราสารหนี้สหรัฐฯ ซึ่งจัดพอร์ตมาให้แล้วตามหลักการระดับโลกอย่าง Modern Portfolio Theory ที่มุ่งสร้างผลตอบแทนสูงสุดบนขอบเขตความเสี่ยงที่คุณรับได้ สามารถเลือกลงทุนในนโยบาย Global ETF 

  • เริ่มต้นลงทุนง่ายๆ เพียง 10,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมต่ำ (ค่าธรรมเนียมบริหารจัดการ 0.5% ต่อปี)
  • มีระบบดูแลปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ

ดัชนี S&P 500 ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมอย่างล้นหลามในหมู่นักลงทุนทั่วโลก ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นตัวเลขที่ปรากฏในข่าวเศรษฐกิจทุกวัน แต่ด้วยเหตุผลหลากหลายประการที่ทำให้ดัชนีนี้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

หากคุณกำลังมองหาทางเลือกการลงทุนใน S&P 500 ที่ง่าย สะดวก มีระบบบริหารจัดการพอร์ตอัตโนมัติ  Jitta Wealth อาจเป็นทางเลือกที่คุณกำลังมองหา

สนใจการลงทุนสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนของเราได้ที่ Line: @JittaWealth หรือ โทร 02-460-8888 ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย